วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่ 9

วันที่ 22 มกราคม 2553

ส่งงานหนังสือนิทาน อะไรเอ่ย? ให้อาจารย์ตรวจดูรอบแรก

สั่งงานทำ powerpoint

เกี่ยวกับการลงโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชถัฎจันทรเกษม

ว่าแต่ละกลุ่มได้อะไรแล้วเมื่อลงแล้วจัดกิจกรรมอะไร


กลุ่ม 4 การเล่านิทานโดยการอัดเสียง

อัดเสียงเล่านิทานให้น้องฟัง ได้ชั้นอนุบาล1/1

นิทานเรื่องกุ๊กไก่ปวดท้อง

บันทึกครั้งที่ 8

วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553
ศึกษาดูงานโรงเรียนอนุบาลสามเสน
ดูกิจกรรมเคลื่อนไหวจังหวะของเด็กอนุบาล 1 ห้องครูไก่

ในอาทิตย์นั่นห้องอนุบาล 1/1 มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับหน่วย ขนมไทย
มีการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวจังหวะ การทำกิจกรรมจะแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม
คือเด็กหญิงและเด็กชาย เพื่อง่ายในการทำกิจกรรม
มีการนำเอาอุปกรณ์เข้ามาร่วมในการทำกิจกรรม คือ ห่วงหวายเล่นโดยการใช้คำสั่ง
และกติกาเพื่อให้เด็กได้คิดและวิเคราะห์ตามคำสั่ง ต่อจากนั่นเป็นกิจกรรมศิลปะ
มีการทำขนมไทยคือ ขนมเปียกปูน
โดยใช้วัสดุอุปกรณ์คือ แผ่นโฟม ขนาดสี่เหลี่ยมเล็ก กระดาษทิชชู ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ
แล้วใช้สีดำเพื่อให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

ได้ประสบการณ์ในการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
ได้ทักษะในการจัดกิจกรรมศิลปะ
เทคนิคในการสอน เทคนิคในการเก็บเด้กและใช้กติกาคำสั่งสำหรับเด็ก
กิจกรรมดังกล่าวสามารถพัฒนาเด็กได้ทั้ง 4 ด้าน
ทั้งนี้ขอขอบพระคุณคณะอาจารย์ที่มานิเทศของโรงเรียนอนุบาลสามเสน
และครูประจำชั้นที่ตอบคำถามส่วนที่สงสัยในการจัดกิจกรรม

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่ 7

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2553

วันนี้อาจารย์สอนต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว เป็นเรื่องของการสั่งงานนอกเวลาเรียน
ให้นักศึกษาจับกลุ่มกลุ่มละ4คน แบ่งเป็น6กลุ่ม
เล่านิทาน และถามคำถามเด็กพร้อมทั้งทำการบันทึกถ่ายรุปเก็บไว้

บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้บรรยากาศในห้องเรียนค่อนข้างเงียบ
เนื่องจากเพื่อนๆส่วนใหญ่ขออนุญาตอาจารย์ไปทำงานเกี่ยวกับวิชามนุษย์และ
สิ่งแวดล้อมที่ต่างจังหวัดและมีความรู้สึกว่าข้างนอกวันนี้ฝนตกอากาศวันนี้ค่อนข้างสบาย

สั่งงานทำสมุดนิทาน แบบถามตอบ

บันทึกครั้งที่ 6

วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ 2553

อาจารย์สั่งงานว่าจะให้นักศึกษาจับกลุ่มวันละ4คน
ไปเล่านิทานตอนเช้าให้เด็กฟังที่สาธิตอนุบาลจันทรเกษม
ให้วางแผน จดบันทึก และถ่ายรูป (บันทึกลงบล็อก)
รายละเอียดต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมควรที่จะเลือกเรื่องแบบไหนเล่าเรื่องอะไร
หน่วยที่จะเล่า เป็นต้น เช่น การเล่านิทาน ว่าแต่ละระดับชั้นมีจุดเด่นที่จะเล่าให้เด็กฟังอย่างไรบ้าง
การอัดเสียงเด็กเมื่อกาอุปกรณ์ ที่เห็นชัดเจนให้เด็กตอบ

บันทึกครั้งที่ 5




วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ 2552


วันนี้นำเสนองานต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว
กลุ่มที่4 การสอนภาษาแบบองค์รวม
การสอนภาษาแบบองค์รวม เป็นปรัชญาแนวคิดความเชื่อที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ เป็นการสอนที่เน้นพัฒนาการทุกๆด้าน ทั้งการ ฟัง พูด อ่าน เขียน สิ่งสำคัญในการสอนภาษาแบบองค์รวมคือต้องพัฒนาให้เข้ากับผู้เรียนเป็นสำคัญ
กลุ่มที่5 การจัดประสบการณ์สำหรับเด็ก
การจัดประสบการณ์สำหรับเด็ก ควรคำนึงถึงเด็กเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทุกด้าน
การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กในการจัดควรจัดให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก เปิดโอกาสให้เด็กแสดงออกผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ จัดให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ทางภาษาหลักการจัดประสบการณ์ เป็นวิธีที่เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้เด็กลงมือกระทำ ทางด้านจิตวิทยาเป็นการทำให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลง คือการได้ทดลองปฏิบัติ ต้องเป็นการปฏิบัติที่เป็นไปตามธรรมชาติ คือ
มีอิสระ สนุกสนาน ไม่มีกรอบ เป้นการจัดบนพื้นฐานความสนุกสนาน ไม่มีขอบเขตบังคับ

บันทึกครั้งที่ 4

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ 2552


อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนองาน
กลุ่ม1 ความหมายของภาษา
ภาษาเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร มี2 ประเภท คือ วัจนภาษา และอวัจนภาษาวัจนภาษา คือ ภาษาที่เป็นถ้อยคำ การพูด ส่วนอวัจนภาษาเป็นภาษาที่ไม่เป็นถ้อยคำ นอกเหนือการใช้คำพูด ในการจัดประสบการณ์ทางภาษา เป็นเครื่องมือของการคิด การแสดงออกถึงความต้องการให้สื่อถึงความเข้าใจกัน
กลุ่ม2 ทฤษฏีทางสติปัญญาเพียเจต์
กล่าวว่า การเรียนรู้ของเด็กเรียนรู้ผ่านระบบประสาท การขยายโครงสร้าง การปรับเข้าสู้โครงสร้างบรูเนอร์ แบ่งการเรียนรู้เป็น 3 ขั้น คือ ขั้นการเรียนรู้การกระทำขั้นการเรียนรู้ด้วยภาพและจินตนาการขั้นการเรียนรู้ด้วยสัญลักษณ์การเรียนรู้จะเกิดก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
กลุ่ม3 จิตวิทยาการเรียนรู้การเรียนรู้
เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญและจำเป็นในการดำรงชีวิต สิ่งมีชีวิตไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่แรกเกิดจนตาย สำหรับมนุษย์การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาให้มนุษย์แตกต่างไปจากสัตว์โลกอื่น ๆจุดมุ่งหมายของการเรียนรู้ มุ่งพัฒนาผู้เรียนใน ๓ ด้าน ดังนี้
๑. ด้านพุทธิพิสัย ๒. ด้านเจตพิสัย ๓. ด้านทักษะพิสัย
องค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้๑. แรงขับ (Drive) เป็นความต้องการที่เกิดขึ้นภายในตัวบุคคล
๒. สิ่งเร้า (Stimulus) เป็นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ๓. การตอบสนอง (Response) เป็นปฏิกิริยา หรือพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกมา๔. การเสริมแรง (Reinforcement) เป็นการให้สิ่งที่มีอิทธิพลต่อบุคคล
กลุ่ม4 การสอนภาษาแบบองค์รวม
เป็นการสอนภาษาที่เป็นไปตามธรรมชาติ ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์ภาษาของตนเองอย่างอิสระ เน้นการการนำรวมวรรณกรรมต่างๆที่ดีมาเป็นสื่อการสอน เพื่อให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ที่หลาหหลาย หลักการสอนให้เด็กเห็นภาพจริงและของจริง

นิทานอะไรเอ่ย?

รายงานการจัดกิจกรรม

อนุบาลสามเสน